วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ฟื้นฟูสุขภาพตนเองด้วยธรรมชาติบำบัดพื้นฐาน

การอดอาหารล้างพิษแบบผู้ปฏิบัติโยคะ

อาหารธรรมชาติ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ซึ่งให้เส้นใยจากธัญพืช เป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ละเว้นและไม่ให้ความสำคัญ แต่เรามักจะหันไปให้ความสำคัญกับอาหารจานด่วน ซึ่งส่งผลให้ร่างกายได้รับสารเคมีปนเปื้อน ทั้งที่มาจากการแต่งสี และกลิ่น รวมไปถึงยาปฏิชีวนะและสารเร่งต่างๆที่เจือปน
ร่างกายของเราจึงได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าอาหารคือ การออกกำลังกาย เมื่อหลายคนขาดการออกกำลังกาย ร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อย นอนไม่เป็นเวลา เราก็จะเข้าสู่ภาวะของอาการเครียด โดยที่หลายคนไม่รู้ตัว และเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพ
ส่วนปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นกับคนไทย ได้แก่ โรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ข้อเสื่อม ภูมิต้านทานผิดปกติ โรคภูมิแพ้ หอบหืด มะเร็งต่างๆ
การป่วยต่างๆนี้ หลายคนแก้ที่ปลายเหตุ ทั้งๆที่โรคเหล่านี้เกิดจากการกินอาหาร และการใช้ชีวิตที่ผิดปกติ ซึ่งสิ่งสำคัญสิ่งแรกคือ
"เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม" เพื่อให้การบำบัดร่างกายเกิดผลอย่างสูงสุด และขณะนี้มีคนจำนวนมากที่หันมาสนใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น ซึ่งหลักของธรรมชาติบำบัดคือ การรับประทานอาหารให้ถูกต้องและมีความเหมาะสม ตามอาการของสุขภาพ และปรับร่างกายและจิตใจให้เกิดความสมดุล ส่วนข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การล้างพิษบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งตามตำราอายุรเวทของอินเดียกล่าวไว้ว่า ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยธาตุ 5 อย่าง คือ ดิน นำ้ ลม ไฟ และช่องว่าง ซึ่งธาตุทั้ง 5 อย่างถูกควบคุมโดยอัคนี หรือเราเรียกว่า ไฟแห่งการมีชีวิต หรือไฟชีวภาพ ผู้ที่สุขภาพไม่ดี การเผาผลาญระบบต่างๆจะหลงเหลือสารพิษไปอุดตันตามทางเดินอาหาร ทางเดินระบบหายใจ หลอดเลือด หลอดนำ้เหลือง ท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ซึ่งทางอายุรเวทใช้ปัญจกรรมะ คือ การอดอาหาร หรือการกินแต่น้อย การสวนลำไส้ล้างทางเดินของระบบหายใจ โดยมีจุดประสงค์คือ ล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพ และให้ร่างกายได้พักผ่อน
ส่วนการล้างพิษแบบสั้นๆและไม่มีขั้นตอนยุ่งยากมากนัก และจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถทดลองปฏิบัติด้วยตนเองได้ คือ
การอดอาหารล้างพิษ
วันข้างขึ้น หรือข้างแรม 11คำ่ เป็นวันที่ระดับนำ้ในโลกจะมีความสมดุลพอดี ซึ่งก็รวมไปถึงระดับนำ้ในร่างกายเราด้วยเช่นเดียวกัน
ตามหลักโยคะศาสตร์กล่าวว่า วันนั้นร่างกายของเราจะไม่ค่อยหิว และเหตุนี้จึงเป็นการใช้ปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าวมาช่วยในการอดอาหาร ทำให้เราสามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนหลายคนอาจไม่สะดวกในการทำวิธีนี้ เพราะต้องมานั่งจำวันข้างขึ้นข้างแรม อาจเลือกทำในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ หรือทำในวันเกิดของเราเองก็ได้ครับ เหมือนกับการให้รางวัลชีวิตกับตัวเองบ้าง
หลักการล้างพิษคือ ร่างกายจะมีการล้างพิษเมื่อมีการอด โดยไม่มีอาหารเช่น เนื้อสัตว์ ไขมัน แป้ง เข้าสู่ร่างกาย และร่างกายจะได้ขจัดสารที่เสียออกไป
ส่วนการอดแบบไม่ทานอะไรเลย ผู้ที่ไม่เคยทำมาก่อนอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลก จึงได้แต่แนะนำให้เลือกการอดตามความเหมาะสมของแต่ละคน
แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องอยู่ที่การปฏิบัติอย่างจริงจังครับ ไม่อย่างนั้นจะไม่เกิดผลใดๆทั้งสิ้น
ส่วนการอดอย่างง่ายที่สุดคือ การอดด้วยการทานผลไม้ชนิดเดียว ตลอดทั้งวัน ให้เลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ส้ม ชมพู่ แคนตาลูป โดยเลือกทานแต่ผลไม้ชนิดนั้นตลอดทั้งวัน เท่าที่ร่างกายต้องการ และหากเราสามารถทำได้ ครั้งต่อไปให้อดด้วยนำ้ผลไม้ หรือนำ้เปล่า โดยใช้หลักการเดียวกัน หากเป็นนำ้ผลไม้ เราควรคั้นและสกัดเอาแต่นำ้ผลไม้นั้น โดยไม่กินกาก
ส่วนการเตรียมตัวก่อนและหลังการอดอาหารล้างพิษนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง โปรดอ่านในครั้งหน้าครับ

วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553

ความเข้าใจเรื่องโยคะ(เพิ่มเติม)

สวัสดีปีใหม่ครับ
ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เขียนถึงท่าฝึกโยคะใหม่ๆมากนัก เพราะกลัวว่าจะเป็นที่สอนโยคะออนไลน์เกินไป และหากใครสนใจท่าฝึกต่างๆ ก็สามารถหาได้ไม่ยากครับ ทั้งเวบไซท์ของไทยและต่างประเทศ ส่วนหนังสือก็หาไม่ยากเช่นกัน สำหรับคุณที่อยู่ตามเมืองใหญ่จะหาได้ง่ายกว่าบางจังหวัดจริงๆครับ แต่หากสนใจหนังสือเล่มไหนเป็นพิเศษก็บอกมาได้ครับ เพราะเราจะหาข้อมูลให้และหากจะฝากซื้อและให้จัดส่งนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ตั้งแต่สอนโยคะมา บ่อยครั้งมีโทรศัพท์และอีเมล์มาสอบถามเรื่องการฝึกโยคะในมุมมองที่แตกต่าง ทั้งในเรื่องของการฝึกฝนที่พิสดาร เช่นในอาสนะท่ายากๆ ที่หลายคนอยากทำได้ หรือการลดนำ้หนักส่วนเกิน ทั้งนี้สาเหตุอาจมาจากสื่อต่างๆนำเสนอ (ไม่เว้นแม้แต่ในภาพโฆษณาหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม) ที่มักจะมีภาพของสโมสร สถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย และหนึ่งในนั้นก็จะมีภาพของคนฝึกโยคะ ทั้งชนิดที่ฝึกแบบง่ายๆ สบายๆ ท่ายกแขน ยกขา หรือท่ายากๆเหมือนกับการแข่งขันยิมนาสติค
ไม่มีอะไรผิดสำหรับคนที่ไม่รู้ แต่คนที่ไม่รู้หรือรับข้อมูลมาจากทางด้านเดียว มักจะสับสนถึง" แก่น " ของวิชาโยคะ ว่าแท้ที่จริงแล้ว การฝึกโยคะให้อะไรกันแน่
เราคงได้แต่บอกแนะนำให้คุณไปหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจ และได้ทำความเข้าใจไปพร้อมๆกัน แต่ที่เราควรสังเกตุคือ เนื้อหาสาระของหนังสือต่างๆ ควรจะมีเนื้อหาเหล่านี้

- ที่มาของโยคะ
- การฝึกโยคะตามหนังสือนั้นๆ ( อาสนะต่างๆ)
- ประโยชน์ของแต่ละท่าฝึก
- การปฏิบัติิตนก่อนและหลังฝึก
- การกำหนดลมหายใจ
- ท่าฝึกตามจุดมุ่งหมายของหนังสือดังกล่าว (เช่น หนังสือที่เน้นเรื่องของการลดนำ้หนัก ลดส่วนต่างๆ หรือหนังสือที่มุ่งเน้นเร่องการฝึกจิตควบคู่ไปด้วย หรือแม้แต่การเน้นที่การฝึกปราณ )

ขึ้นอยู่กับว่า เราฝึกได้มากน้อยแค่ไหน และตั้งใจฝึกฝน หรือฝึกฝนได้ในระดับไหน ส่วนจะมากหรือน้อยนั้น ต้องอาศัยองค์ประกอบหลักจากสภาพร่างกายของผู้ฝึก ความพร้อมทางด้านจิตใจ และความอดทน ที่สำคัญมาก สำหรับผู้สนใจในศาสตร์ด้านนี้ ส่วนผลสำเร็จนั้นเป็นสิ่งที่ต้องผ่านขั้นตอนการฝึกฝนและความอดทนมาก่อนเป็นสำคัญครับ
^^