
ภาวะอุทกภัยที่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังประสบ ทำให้หลายคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก แม้แต่ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างปกติก็ยังอดมีความหวาดระแวงไม่ได้ว่านำ้จะท่วมบ้านหรือเปล่า แม้แต่ผมเองในบางครั้งยังหวั่นไหวกับภาพที่พบเห็นในสื่อต่างๆ และไม่กี่วันที่ผ่านมา พายุฝนได้กระหนำ่ในละแวกที่พักอาศัย จนเกิดอาการนำ้ท่วมขังที่ค่อนข้างน่ากลัว
หลายคนเสียขวัญและกำลังใจ จึงไม่แปลกที่กิจกรรมทางสังคมต่างๆ ทั้งการประกอบธุรกิจสาขาต่างๆก็ชะงักลง แม้แต่ผู้ที่ฝึกโยคะก็ไม่มีเวลาจะมาคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ
ธรรมชาติไม่ได้โหดร้าย เพียงแต่ธรรมชาติดำเนินไปตามวิถีทางของตนเอง เราอาจไม่รู้สึกถึงความคุ้นชิน เพราะอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย จนบางครั้ง เมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างหายไป เราก็ไม่สามารถทำอะไรในแบบที่เป็นปกติได้
ผมไม่ได้เขียนให้รู้สึกว่าเป็นการกระทบกระเทือนซำ้เติมหรือเจตนาแอบแฝงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เขียนในวันนี้เป็นการสะท้อนความคิดถึงวิถีชีวิตที่แสนจะธรรมดา
…ในโลกที่สวยงามและศิวิไลซ์ หลายคนกำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเติมเต็มความฝันความคิดที่ไม่สมบูรณ์
หลายคนสะกดจิตใจตนเองด้วยสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่อาจมากเกินความจำเป็น
หลักการดำรงชีวิตง่ายๆ ที่เราต่างรู้ …ปัจจัยสี่ ซึ่งได้แตกแยกออกไป
บทเรียนจากธรรมชาติอาจเป็นเหมือนภาพในหนังสารคดีหรือภาพยนตร์ระดับโลกที่ดูเพื่อความบันเทิง
และนานวันเข้า เราก็หลงลืม และพบกับบทเรียนใหม่ๆที่นับวันจะเลวร้ายขึ้น ตามวันเวลาของเทคโนโลยีที่เข้ามา
เรารับรู้ข้อมูลต่างๆผ่านทางข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ แทนการอ่านจากหน้ากระดาษ
หรือว่า…โลกหมุนเร็วเกินไป
หลับตาช้าๆ นั่งในที่สงบ…
หายใจเข้าและออกยาวๆ … ก้าวเข้าสู่โลกแห่งจิตใจดูสักครั้ง